ขวดเดียวใช้ได้ทั้งพริกและมะเขือ เร่งดอกเต็มต้น - นวัตกรรมสำหรับเกษตรกรยุคใหม่
สิ่งที่เกษตรกรต้องเผชิญคือการทำให้ต้นพืชออกดอกดก ติดผลดก และสามารถเก็บขายได้หลายรอบ โดยต้นไม่โทรมเสียหาย วันนี้เราจะมาแนะนำโซลูชั่นที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ "พริกดก มะเขือดก เอเจนต้า คอร์ป" ที่ขวดเดียวใช้ได้ตั้งแต่เริ่มปลูกยันเก็บผลผลิต


ทำไมพริกและมะเขือถึงต้องการการบำรุงเป็นพิเศษ

พริกและมะเขือเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน (Solanaceae) และมีความต้องการธาตุอาหารที่คล้ายกัน โดยเฉพาะในระยะที่ต้องการให้ออกดอกและติดผล เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดต่อปริมาณและคุณภาพผลผลิต ปุ๋ยเร่งดอกควรใช้เมื่อพืชตั้งตัวได้ดีและมีแนวโน้มจะออกดอก เช่น หลังย้ายปลูกประมาณ 12 เดือน หรือเมื่อพืชเริ่มมีการเจริญเติบโตเต็มที่


ลักษณะเฉพาะของพริกและมะเขือที่ต้องการการบำรุง

  • เป็นพืชที่มีการเจริญเติบโตต่อเนื่อง
  • ออกดอกและติดผลเป็นระยะยาว
  • ต้องการธาตุอาหารในปริมาณสูง
  • ต้องการการบำรุงที่สม่ำเสมอและต่อเนื่อง


ความสำคัญของการออกดอกดก
สูตรเร่งดอก เร่งหมาก ติดผลดกสูตรเร่งดอก ขั้วเหนียว ติดดก เป็นจุดเริ่มต้นของการได้ผลผลิตที่ดี เพราะดอกที่มีคุณภาพจะกำหนดปริมาณและขนาดของผลที่จะได้ การที่ต้นออกดอกดก หมายถึง

  • มีโอกาสติดผลมากขึ้น - ยิ่งมีดอกมาก โอกาสได้ผลก็มากตามไปด้วย
  • การกระจายตัวของผลดีขึ้น - ดอกที่ออกสม่ำเสมอจะให้ผลที่กระจายทั่วต้น
  • เพิ่มระยะเวลาการเก็บเกี่ยว - ดอกออกเป็นระยะจะทำให้เก็บผลได้นาน
  • คุณภาพผลดีขึ้น - ดอกที่สมบูรณ์จะให้ผลที่มีขนาดใหญ่และคุณภาพดี
  • พริกดก มะเขือดก เอเจนต้า คอร์ป - โซลูชั่นครบเครื่อง


คุณสมบัติเด่นที่แตกต่าง

  • เร่งดอก ดอกดก ดอกเต็มต้น สูตรพิเศษที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับกระตุ้นการออกดอก ช่วยให้ต้นพืชสร้างตาดอกมากขึ้น และดอกที่ออกมามีขนาดใหญ่ สมบูรณ์ ช่วยให้ออกดอก ออกผลมาก เพิ่มผลผลิต เพิ่มปริมาณ เพิ่มขนาด เพิ่มคุณภาพ เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มรสชาติ และเพิ่มสีสัน
  • ติดผลดก ข้อถี่ พุ่มใหญ่ หลังจากออกดอกแล้ว สิ่งสำคัญต่อไปคือการให้ดอกติดเป็นผล สูตรนี้ช่วยเพิ่มอัตราการติดผล ทำให้ได้ผลผลิตมากขึ้น ข้อที่ใกล้กันจะมีผลดก ทำให้ต้นดูพุ่มใหญ่ เต็มไปด้วยผล
  • ลูกใหญ่ สีสวย ผิวมัน ไม่เพียงแต่ให้ปริมาณผลผลิตมาก แต่ยังช่วยให้คุณภาพของผลดีขึ้น ลูกพริกและมะเขือจะมีขนาดใหญ่กว่าปกติ สีสันสดใส ผิวเรียบเงา น่ารับประทาน
  • เก็บขายได้หลายรอบ ต้นไม่โทรม ความพิเศษอีกอย่างคือช่วยให้ต้นพืชมีความแข็งแรงยืนยาว ไม่เหี่ยวเฉา เก็บผลผลิตได้หลายรอบ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ช่วยเพิ่มกำไรต่อการลงทุน


วิธีการใช้งานที่ถูกต้องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  • อัตราการใช้และการเตรียมสารละลาย
  • อัตราใช้: 20-30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

อัตราส่วนนี้ได้รับการคำนวณมาอย่างละเอียดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโต


ขั้นตอนการเตรียม

  • วัดน้ำ 20 ลิตรใส่ในถังฉีดพ่น
  • วัดผลิตภัณฑ์ 20-30 ซีซี ด้วยที่ตวงที่แม่นยำ
  • ผสมให้เข้ากัน คนหรือเขย่าให้สารละลายเข้ากันดี
  • ใช้งานทันที หลังจากผสมแล้วควรใช้ภายในวัน


ระยะเวลาและความถี่ในการใช้งาน การใช้ตั้งแต่เริ่มปลูกยันเก็บผลผลิต
1. ช่วงหลังปลูก (อายุ 2-3 สัปดาห์)

  • ใช้เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของต้นอ่อน
  • ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน
  • ช่วยให้ต้นแข็งแรง ทนทานต่อโรคและแมลง

2. ช่วงก่อนออกดอก (อายุ 1-2 เดือน)

  • เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดในการเตรียมต้นพืชสำหรับการออกดอก
  • เพิ่มความถี่เป็นทุก 5-7 วัน
  • เน้นการกระตุ้นตาดอกให้เกิดขึ้นมากที่สุด

3. ช่วงออกดอกและติดผล (อายุ 2-4 เดือน)

  • ใช้ต่อเนื่องทุก 7 วัน
  • ช่วยให้ดอกติดผลได้ดีและผลมีคุณภาพ
  • เป็นช่วงที่จะเห็นผลชัดเจนที่สุด

4. ช่วงเก็บผลผลิต (อายุ 3 เดือนขึ้นไป)

  • คงความถี่ทุก 7-10 วัน
  • ช่วยให้ต้นพืชมีความแข็งแรงต่อเนื่อง
  • เก็บผลได้หลายรอบโดยต้นไม่โทรม


การแก้ปัญหาที่พบบ่อย
ปัญหาและวิธีแก้ไข
1. ปัญหา: ดอกออกแต่ไม่ติดผล
    สาเหตุ: อาจเป็นปัญหาการผสมเกสร หรือสภาพอากาศ
    วิธีแก้: เพิ่มความถี่การใช้เป็นทุก 5 วัน ช่วงออกดอก

2. ปัญหา: ผลติดแต่ลูกเล็ก
    สาเหตุ: ขาดธาตุอาหารบำรุงผล
    วิธีแก้: เพิ่มปริมาณการใช้เป็น 30 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร

3. ปัญหา: ต้นโทรมเร็ว
    สาเหตุ: การจัดการน้ำไม่ถูกต้อง หรือมีโรค
    วิธีแก้: ตรวจสอบระบบระบายน้ำ และใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง

4. ปัญหา: ใบเหลือง ร่วงง่าย
    สาเหตุ: ขาดธาตุไนโตรเจน หรือมีปัญหาราก
    วิธีแก้: เสริมปุ๋ยไนโตรเจนเพิ่มเติม และปรับปรุงดิน


การใช้งานในสภาพอากาศต่าง ๆ
การปรับการใช้ตามฤดูกาล
1. ฤดูร้อน

  • เพิ่มความถี่การใช้เป็นทุก 5 วัน
  • ฉีดพ่นในเวลาเย็นเท่านั้น
  • เพิ่มการให้น้ำหลังฉีดพ่น

2. ฤดูฝน

  • ลดความถี่เป็นทุก 10-14 วัน
  • เลือกช่วงที่ฝนหยุดตก
  • เพิ่มความเข้มข้นเล็กน้อย

3. ฤดูหนาว

  • ใช้ตามปกติทุก 7 วัน
  • เพิ่มเวลาฉีดพ่นเป็นช่วง 10:00-14:00
  • อาจเห็นผลช้าลงเล็กน้อย


การใช้ในพื้นที่ต่าง ๆ
1. พื้นที่ราบลุ่ม

  • ระวังการระบายน้ำในช่วงฝน
  • อาจต้องเพิ่มการให้ปุ๋ยโพแทสเซียม

2. พื้นที่ที่สูง

  • เพิ่มความถี่ในการใช้เนื่องจากอากาศหนาว
  • อาจต้องใช้ร่วมกับการป้องกันหนาว

3. พื้นที่ชายทะเล

  • ระวังการสะสมเกลือในดิน

^

COPYRIGHT © 2025 AJANTAR CORP เพื่อนแท้เกษตรกร ALL RIGHT RESERVED